ต่อจากเอนทรี่ที่แล้วนะคะ (กว่าจะมาต่อ orz) ก็ได้อ่านที่คนญี่ปุ่นเขียนเล่าเรื่องนี้มาหลายๆแบบค่ะ ทำให้รู้ว่าการเล่าเรื่องอย่างธรรมชาติตามแบบคนญี่ปุ่นนั้นเป็นยังไง อีกทั้งได้รู้ศัพท์และสำนวนใหม่ๆที่มีประโยชน์ต่อการเล่าเรื่องนี้จากการเรียนในห้อง จึงนำเอามาปรับปรับการ storytelling ของตัวเองดังนี้ค่ะ
ここは赤ちゃんと犬がいます。犬は寝ています。赤ちゃんは犬の背中に乗りたいと思っていました。赤ちゃんは寝ている犬にハイハイをして近づいて、すると、犬は目を開けてしまいまし
た。赤ちゃんはびっくりして、どうしようかなと思っていました。赤ちゃんは犬の背中に周り込んでいました。でも、犬は寝ている向きを変えたので、赤ちゃん
はまた犬の顔と合わせてしまいました。
จากที่แต่งใหม่จะเห็นได้ชัดว่ามัน...สั้นลง ฮ่าๆๆๆ ไม่เวิ่นเว้อละ หลังจากที่เรียนและดูของคนญี่ปุ่นมาเราก็พบว่าในขณะที่เราชอบใช้ N + は แล้วก็อธิบายๆ แต่คนญี่ปุ่นมักจะใช้ประโยคขยายยาวๆมาขยาย N เราเลยเอามาใช้มั่ง => 寝ている犬にハイハイをして。。แบบนี้ค่ะ
แล้วเมื่อตอนที่ storytelling ครั้งแรกเราไม่ค่อยรู้ศัพท์เกี่ยวกับการเคลื่อนที่เลยใช่ป่ะ พวก ハイハイをする・近づく・周り込む・向きを変える อะไรพวกนี้ พอครั้งนี้รู้แล้วเลยเอามาใช้มากขึ้นค่ะ ทำให้เรื่องดูเข้าใจง่ายขึ้นเยอะะะะ ป่ะ? 55555555
แล้วก็คนญี่ปุ่นมักจะเล่าแบบระบุมุมมองของเรื่องไปเลยอ่ะ เช่น จะเล่าจากมุมมองของสุนัข หรือจะเล่าในมุมมองของเด็ก ซึ่งต่างจากเราที่มักจะเล่าไปเรื่อยๆมากกว่า ครั้งนี้เลยพยายามเล่าให้เป็นมุมมองของเด็กมากขึ้น ไม่รู้ดูออกมั้ยง่ะ ;w;
เนื่องจากการใช้ そして มันไม่เป็นธรรมชาติเราจึง...เลิกใช้ค่ะ! 55555555 ครั้งนี้ก็พยายามไม่ใช้แล้วอ่ะ ไปใช้ すると แทน แฮ่ๆ
สุดท้ายคือถ้าจะทำให้ประโยคดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นส่วนมากเค้าจะใช้ てしまった มาเล่ากัน ซึ่งตอนแรกเราไม่ได้ใช้เลยอ่ะ ไม่ได้นึกถึงเลย ครั้งนี้เลยใช้ てしまった มากขึ้น ทำให้เรื่องดูเป็นธรรมชาติขึ้นบ้างมั้ยนะ...
ค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ ดูพัฒนาขึ้นบ้างมั้ย 55555555555 ยังไงก็รู้ศัพท์ใหม่มากขึ้นเรื่องก็น่าจะดีกว่าเดิมเยอะเลยเนอะ อาจจะดูสั้นๆไปนิดแต่ก็พอเข้าใจใช่ป่าววว ฮ่าๆ แล้วเจอกันใหม่ตอนสุดท้ายสำหรับ 'I can change' the series ค่ะ <3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น